การออกแบบบ้านให้ประหยัดพลังงาน

[luktan1479]

1. ปลูกต้นไม้ทรงสูงเพื่อบังแสงตะวัน โดยที่จะจำเป็นต้องให้มีกระแสลมเย็นพัด ผ่านใต้พุ่มไม้ใบในความเร็วที่เหมาะเจาะ เพื่อลดอุณภูเขาไม่ด้านนอกใกล้รอบๆบ้านและ คุ้มครองลมพัดผ่านเข้าตัวบ้านเยอะเกินไป โดยควรจะปลูกต้นไม้ในทิศตะวันออกและ ทิศตะวันตก



2. ควรที่จะทำการเลือกจำพวกต้นไม้ที่สมควรสำหรับใช้เป็นร่มเงาที่มีอยู่ตามเขตแดนตัวอย่างเช่น ต้นปีบ ต้นอินทนิล ต้นสัตบัน ต้นสุพรรณิกา ฯลฯ เพื่อลดการใช้ปุ๋ย ยาฆ่า แมลงการดูแลรักษา เนื่องด้วยต้นไม้เหล่านี้มีความคุ้นเคยกับภาวะทำเลที่ตั้ง และสภาพอากาศในประเทศไทยอยู่แล้ว

3. นำหลักภูเขามิสถาปัตย์มาใช้ เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมบริเวณบริเวณบ้านให้ เย็นสบาย โดยการปลูกพืชคลุมดิน ปลูกต้นหญ้า จัดแต่งสวน จัดทำน้ำตกเลียนแบบ เป็นต้น

4. กลบดินบริเวณรอบบ้านให้สูง เพื่อพื้นและฝาผนังบางส่วนต่ำยิ่งกว่าดินทำให้สามารถนำความเย็นจากดินมาใช้ รวมทั้งปลูกไม้พุ่มรอบๆฝาผนังบ้าน



5. ในเรื่องที่มีพื้นที่จำกัด บางทีอาจจะปลูกต้นไม้ดัด หรือไม้เลื้อยตามระเบียงหรือรั้ว เพื่อลดลมร้อนพัดผ่านเข้าตัวบ้าน และก็ลดความแรงของแสงตะวันที่ ส่องผิวอาคาร



6. ทำรางน้ำและท่อที่มีไว้ระบายน้ำจากหลังคา หรือส่วนต่างๆข้างในบ้านให้ สมควร เพื่อคุ้มครองป้องกันความชื้นซึมเข้าไปในบ้าน หรือบางครั้งอาจจะทำท่อที่มีไว้สำหรับระบายน้ำที่ได้จาก วิธีสำหรับซักล้างไปใช้รดน้ำต้นไม้

7. ถ้าอยากได้ทำที่หยุดรถยนต์ ควรทำที่จอดรถยนต์พร้อมหลังคาในด้านทิศตะวันออก หรือทิศตะวันตก เพื่อเป็นการช่วยลดความร้อนผ่านเข้ามาในตัวบ้านโดยตรง



8. บุฉนวนกันความร้อนที่หลังคาแล้วก็ผนัง โดยความดกของฉนวนที่ใช้ต้อง ขึ้นกับภาระหน้าที่ทำความเย็น แม้กระนั้นโดยมากใช้ฉนวนที่มีความครึ้มโดยประมาณ 2-3 นิ้ว (50-75 มิลลิเมตร) ฉนวนสำหรับหลังคาและฝาผนังมีหลายแบบ อย่างเช่น ฉนวนใย แก้ว ฉนวนเยื่อกระดาษ ฉนวนเซรามิกลงสีฝาผนังด้านนอกของบ้านเป็นสีอ่อน ใช้วัสดุที่มีผิวมันและก็กันความชุ่มชื้น

9. ใช้กระเบื้องหลังคาสีอ่อน เพื่อสะท้อนความร้อนได้ดิบได้ดี

10. สำหรับฝาผนังด้านที่มีระเบียงยื่น ควรที่จะทำการเลือกใช้ประตูหรือหน้าต่างชนิดบานกลับที่สามารถควบคุมปริมาณลมได้ดีกว่าการใช้ประตูหรือหน้าต่างจำพวกบานเลื่อน

11.จัดตั้งหน้าต่างกระจกเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น โดยให้พอเพียงสำหรับในการรับแสงสว่างจากธรรมชาติ และก็ควรหลีกเลี่ยงการต่อว่าดตั้งด้านทิศตะวันออกและตะวันตก

12. ทำกันสาดให้กับหน้าต่างกระจก โดยกันสาดแนวราบเหมาะสมกับหน้าต่าง ที่อยู่ทางทิศเหนือแล้วก็ทิศใต้ เพราะว่าสามารถบังแสงแดดในช่วงเที่ยงตรงรวมทั้งช่วง บ่าย ส่วนกันสาดแนวดิ่งเหมาะสมกับหน้าต่างที่อยู่ทิศตะวันออกและก็ทิศตะวันตก



13. จัดตั้งผ้าม่านหรือม่านบังตารอบๆหน้าต่างกระจก เพื่อปกป้องความร้อนจากแสง อาทิตย์เข้าภายในตัวบ้าน ส่วนการติดฟิล์มถ่ายรูปกรองแสงสว่างที่กระจกหน้าต่างนั้น แม้ว่าจะคุ้มครองปกป้อง ความร้อนจากแสงแดดได้ดีกว่า แต่ค่าใช้สอยสูงกว่าจึงไม่ค่อยได้รับความนิยม

14. สำหรับห้องนอนหรือห้องที่อยากปรับอากาศที่ตั้งอยู่บริเวณชั้นสองเหนือ รอบๆที่จอดรถหรือระเบียง จะต้องมีการทาหรือพ่นฉนวนที่ฝ้าเพดานของที่จอดรถ หรือระเบียงนั้นๆเพื่อคุ้มครองการนำความร้อนจากด้านนอกผ่านใต้พื้นห้องเข้า สู่ตัวห้อง

15. ติดตั้งพัดลมที่ใช้ในการระบายอากาศบนหลังคา เพื่อดูดอากาศร้อนใต้หลังคาออกไป ภายนอก

16. ทำระเบียงยื่นพร้อมชิดกันสาดในทิศตะวันออกแล้วก็ทิศตะวันตก สำหรับใช้ เป็นที่นั่งกินอาหารว่างหรือใช้หุงหาอาหารนอกบ้านแล้วยังช่วยลดความร้อนเข้ามา ในบ้านอีกด้วย

17. ทิศเหนืออยรั่วด้วยซีเมนต์หรือซิลิโคน (Silicone) ที่ช่องจัดตั้งตะเกียง ช่องติด ตั้งพัดลมเพดาน ช่องที่เตรียมไว้สำหรับเดินท่อน้ำ เป็นต้น เพื่อคุ้มครองปกป้องความ ร้อนจากด้านนอกผ่านเข้าช่องเพดาน

18. อุดรอยรั่วตามรอยต่อ ระหว่างผนังขอบประตู หน้าต่าง เพื่อคุ้มครองความ ร้อนรวมทั้งความชื้นจากด้านนอกผ่านเข้าไปในบ้าน ในเรื่องที่ห้องนั้นเป็นห้อง ปรับอากาศ

19. จัดวางตู้รวมทั้งชั้นสำหรับเพื่อวางของให้เหมาะสม ไม่บังลม ไม่ขวางการระบาย อากาศ และไม่บังแสงสว่าง

20. จัดวางโต๊ะเขียนหนังสือให้หันไปในฝาผนังด้านที่รับแสงธรรมชาติได้

21. หมั่นรักษาชำระล้าง พรม ผ้าม่าน โซฟา ไม่ให้เปียกแฉะ เพื่อลดภาระทำความเย็นเหตุเพราะความร้อนแฝง



22. แยกห้องใช้สอยโดยพิจารณาถึงการประหยัดพลังงาน โดยจัดห้องที่ใช้ ช่วงเวลาเช้าอยู่ในทิศตะวันออก ส่วนห้องที่ใช้สอยแทบตลอดทั้งวันให้อยู่ทิศเหนือ เพราะว่าจะเย็นสบายที่สุด ได้แก่ ห้องนั่งเล่นอยู่ในทิศเหนือ เป็นต้น

23. ควรติดตั้งคอนเดนเซอร์ระบายความร้อนด้วยอากาศในที่ร่ม หรือใต้ต้นไม้ และจะต้องไม่มีสิ่งกีดขวางทางลมเข้าและออกจากคอนเดนเซอร์ ในด้านทิศ เหนือของบ้านเป็นด้านที่เหมาะสมที่จะติดตั้งคอนเดนเซอร์มากที่สุด แต่ว่าถ้าไม่ สามารถติดตั้งในด้านทิศเหนือก็สามารถติดทางใต้ที่มีกันสาดแทนได้

24. ควรติดตั้งคอนเดนเซอร์ในที่ๆสามารถดูแลรักษาสบาย และใน ที่ๆไม่ส่งเสียงก่อกวนเข้ามาด้านในห้อง



25. ควรจะติดตั้งอุปกรณ์สำหรับใช้ในการควบคุมอุณหภูมิ (Thermostat) ภายในห้องปรับอากาศ ให้เหมาะสมหมายถึงไม่ควรโดนแสงอาทิตย์โดยตรง เพราะว่าจะก่อให้เทอร์โมสตัท อ่านค่าบกพร่อง และก็ควรจัดตั้งในรอบๆที่สามารถที่จะอ่านค่าอุณหภูมิได้ง่ายและ รวมทั้งสบายต่อการปรับตั้งค่าอุณหภูมิตามอยาก

26. ควรจะติดตั้งเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า ในบริเวณที่ไม่ปรับอากาศแล้วก็เปิดโล่งเตียน อย่างเช่น ที่จอดรถ ระเบียงนอกบ้าน เพื่อระบายความร้อนและก็ลดความชุ่มชื้นที่ปลด ปลดปล่อยมาจากเครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้ แม้กระนั้นถ้าหากจะต้องติดตั้งในห้องปิด น่าจะจำเป็นต้องติด ตั้งพัดลมที่ใช้ในการระบายอากาศ เพื่อคุ้มครองปกป้องการสั่งสมความร้อนแล้วก็ความชื้นข้างในห้อง



27. พินิจทำห้องครัวให้อยู่นอกตัวบ้าน แม้กระนั้นถ้าเกิดหลบหลีกไม่ได้ห้องครัวที่อยู่ ข้างในตัวบ้านจะต้องมีการระบายความร้อนที่ดี เพราะห้องครัวมักมี เครื่องใช้ไฟฟ้าหลายแบบ เช่น เตาอบ เตาหุงหาอาหาร กาที่เอาไว้ต้มน้ำร้อน ตู้เย็น ซึ่งเป็น แหล่งปลดปล่อยความร้อนที่สำคัญ



28. จัดตั้งเครื่องดูดกลิ่นหรือดูดควันใบริเวณที่ทำการหุงหาอาหารแล้วก็อากาศ ที่ใช้กับเครื่องดูดกลิ่นหรือดูดควันนี้ ควรมาจากภายนอกบ้านไม่สมควรใช้อากาศ เย็นจากเครื่องปรับอากาศโดยตรง

29.เลือกใช้วัสดุอุปกรณ์และก็อุปกรณ์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง นอกเหนือจากที่จะประหยัด พลังงานจากตัวมันเองแล้วยังลดความร้อนที่ถูกปลดปล่อยออกมาในเวลาใช้งาน อีกด้วย อย่างเช่น ใช้ตู้แช่เย็นประสิทธิภาพสูง ใช้หลอดไฟคุณภาพสูง ฯลฯ

[Beer625]

 กลับมาดัน ขอบคุณค่ะ

[Ailie662]

ดันๆ

[Naprapats]

 ดันกระทู้

[Panitsupa]

 กลับมาดัน ขอบคุณค่ะ

[Panitsupa]

 กลับมาดัน ขอบคุณครับ

[Ailie662]

 กลับมาดัน ขอบคุณค่ะ

[Panitsupa]

 กลับมาดัน ขอบคุณค่ะ

[Chanapot]

 ดันกระทู้

[Cindy700]

 ดันกระทู้

[Beer625]

 กลับมาดัน ขอบคุณค่ะ

[Panitsupa]

 ดันกระทู้

[dsmol19]

 กลับมาดัน ขอบคุณครับ

[Beer625]

 กลับมาดัน ขอบคุณค่ะ

[Panitsupa]

 ดันกระทู้