ทำความรู้จักกับพื้นไม้ SPC ในแบบที่คนทั่วไปควรรู้

[Panitsupa]

ทำความรู้จักกับพื้นไม้ SPC ในแบบที่คนทั่วไปควรรู้

1. พื้นไม้ SPC คืออะไร?
[url=https://www.kswood.com/%e0%b8%9e%e0%b8%b7%e0%b9%89%e0%b8%99%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b9%89-spc/]spc[/u]/]พื้นไม้ SPC[/url] หรือ Stone Plastic Composite เป็นวัสดุปูพื้นที่มีการผสมผสานระหว่างหินปูน (Calcium Carbonate) และพลาสติกโพลิเมอร์ ทำให้เกิดวัสดุที่มีความแข็งแรง ทนทาน และยืดหยุ่นในเวลาเดียวกัน จุดเด่นของพื้นไม้ SPC คือความสามารถในการต้านทานความชื้นได้ดี ไม่บวมน้ำ และไม่เกิดเชื้อรา ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เช่น ห้องน้ำ ห้องครัว หรือพื้นที่ที่มีโอกาสโดนน้ำบ่อยครั้ง
2. คุณสมบัติที่โดดเด่นของพื้นไม้ SPC
กันน้ำและความชื้น: พื้นไม้ SPC สามารถกันน้ำได้ 100% จึงไม่ต้องกังวลเรื่องการบวมน้ำหรือเกิดความเสียหายเมื่อสัมผัสกับน้ำ
แข็งแรงและทนทาน: ด้วยส่วนผสมของหินปูนและโพลิเมอร์ พื้นไม้ SPC มีโครงสร้างที่แข็งแรง ทนต่อแรงกระแทกและรอยขีดข่วน
 
ติดตั้งง่าย: พื้นไม้ SPC มักมาพร้อมระบบคลิกล็อก (Click Lock) ทำให้สามารถติดตั้งได้ง่ายโดยไม่ต้องใช้กาว
 
ดูแลรักษาง่าย: การทำความสะอาดพื้นไม้ SPC ใช้เพียงผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดก็เพียงพอแล้ว
 
ดีไซน์หลากหลาย: พื้นไม้ SPC มีลวดลายและสีสันที่หลากหลาย ให้เลือกตามสไตล์การตกแต่งบ้าน
 
3. โครงสร้างของพื้นไม้ SPC
พื้นไม้ SPC ประกอบด้วยชั้นต่างๆ ดังนี้:

ชั้นเคลือบ UV: ป้องกันรอยขีดข่วนและช่วยรักษาความงามของลวดลายพื้น

ชั้นฟิล์มลายไม้: ให้ลวดลายที่สวยงามและสมจริง

ชั้นแกนกลาง SPC: เป็นหัวใจสำคัญที่ผสมผสานระหว่างหินปูนและโพลิเมอร์ ทำให้พื้นมีความแข็งแรงและต้านทานความชื้น
ชั้นรองรับ: เพิ่มความมั่นคงและลดเสียงสะท้อนเมื่อเดินบนพื้น
 
4. ข้อดีของพื้นไม้ SPC

ปลอดภัยต่อสุขภาพ: พื้นไม้ SPC ไม่ปล่อยสาร VOC (Volatile Organic Compounds) ที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ

เหมาะกับทุกพื้นที่: สามารถใช้ได้ทั้งในบ้านและสำนักงาน รวมถึงพื้นที่เชิงพาณิชย์

ราคาคุ้มค่า: แม้ว่าราคาจะสูงกว่าพื้นลามิเนตเล็กน้อย แต่คุณภาพและความทนทานของพื้นไม้ SPC ทำให้เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว
 
5. วิธีการติดตั้งพื้นไม้ SPC

การติดตั้งพื้นไม้ SPC ไม่จำเป็นต้องใช้ช่างผู้เชี่ยวชาญ คุณสามารถทำเองได้เพียงไม่กี่ขั้นตอน:

เตรียมพื้นผิว: ทำความสะอาดพื้นผิวให้สะอาดและเรียบเสมอ

วางแผ่นพื้นไม้ SPC: เริ่มวางจากมุมห้อง และใช้ระบบคลิกล็อกเพื่อเชื่อมต่อแผ่นแต่ละแผ่น
ตัดแผ่นพื้นตามขนาด: ใช้เลื่อยหรือเครื่องมือสำหรับตัดพื้นไม้ SPC เพื่อปรับขนาดตามพื้นที่
เก็บรายละเอียด: ติดตั้งบัวพื้นและซิลิโคนเพื่อปิดช่องว่างระหว่างพื้นและผนัง
 
6. การดูแลรักษาพื้นไม้ SPC

การดูแลพื้นไม้ SPC เป็นเรื่องง่ายที่ไม่ซับซ้อน:

ใช้ไม้กวาดหรือเครื่องดูดฝุ่นกำจัดฝุ่นและเศษสิ่งสกปรก

ใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดทำความสะอาดพื้น

หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อน เช่น น้ำยาขัดพื้นรุนแรง
ใช้แผ่นรองเฟอร์นิเจอร์เพื่อป้องกันรอยขีดข่วน
 
7. เหตุผลที่ควรเลือกพื้นไม้ SPC สำหรับบ้านคุณ

ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย: ไม่ว่าคุณจะชอบสไตล์โมเดิร์น คลาสสิก หรือมินิมอล พื้นไม้ SPC มีดีไซน์ที่เข้ากับทุกความต้องการ

ประหยัดงบประมาณในระยะยาว: ด้วยความทนทานและอายุการใช้งานที่ยาวนาน พื้นไม้ SPC จึงเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า
ปลอดภัยสำหรับครอบครัว: เหมาะสำหรับบ้านที่มีเด็กเล็กหรือสัตว์เลี้ยง เนื่องจากไม่ลื่นและไม่มีสารอันตราย
เหมาะกับทุกสภาพอากาศ: พื้นไม้ SPC ไม่หดตัวหรือขยายตัวเมื่ออุณหภูมิเปลี่ยนแปลง
ง่ายต่อการปรับปรุง: หากต้องการเปลี่ยนดีไซน์ สามารถถอดแผ่นพื้นและติดตั้งใหม่ได้ง่าย

 

พื้นไม้ SPC เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการตกแต่งบ้าน ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของความสวยงาม ความทนทาน หรือความสะดวกสบายในการติดตั้งและดูแลรักษา ด้วยคุณสมบัติที่หลากหลายและตอบโจทย์ความต้องการในทุกแง่มุม พื้นไม้ SPC จึงเป็นตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม หากคุณกำลังมองหาวัสดุปูพื้นที่ให้ทั้งความสวยงามและการใช้งานที่ยาวนาน พื้นไม้ SPC คือคำตอบที่เหมาะสมสำหรับบ้านของคุณ
 

ที่มา  https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=boyzmz&month=21-01-2025&group=1&gblog=47